เมื่อพูดถึงปลาสลิดนั้น หลายๆคน ก็มักจะนึกถึงหน้าตาเขาไม่ออก
ทั้งๆที่ก็เป็นปลาน้ำจืดที่คุ้นเคย นั่งกินอยู่บ่อยๆ เพราะตอนไปซื้อทีไร
ก็ไม่เคยเห็นหัวมันอยู่ครบกับตัวซักที (ฮา) จนหลายๆคนก็อาจจะแซวว่า จริงๆ
ปลาสลิดมันไม่มีหัวหรอก...ซึ่งจริงๆ มันมีนะจ๊ะ (ฮา)
ปลาสลิดหรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า ปลาใบไม้เป็นปลาน้ำจืด
ซึ่งเป็นปลาพื้นบ้านของประเทศไทย มีแหล่งกำเนิดอยู่ในที่ลุ่มภาคกลาง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trichogaster pectoralis และนิยมเลี้ยงกันมากบริเวณภาคกลางของประเทศ
สำหรับแหล่งปลาสลิดที่มีชื่อเสียเป็นที่รู้สักว่ามีรสชาติดี เนื้ออร่อย คือ
ปลาสลิดบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
แต่ปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมได้ขยายตัวอย่างแพร่หลายทำให้น้ำธรรมชาติที่จะระบายลงสู่บ่อเลี้ยงปลาสลิดมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมเท่าไหร่
แต่ก็ยังพอมีการเลี้ยงกันอยู่บ้างพอสมควร
ส่วนพื้นที่ดินพรุทางภาคใต้ในเขตจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นดินเปรี้ยวก็สามารถใช้เป็นที่เลี้ยงปลาสลิดได้เช่นกัน
ด้วยความที่โดยพื้นฐานนั้น ปลาสลิดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย มีความอดทนต่อความเป็นกรด
และน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนน้อยได้ดี มีห่วงโซ่อาหารสั้นคือกินแพลงก์ตอนและสิ่งมีชีวิตเล็กๆในน้ำเป็นอาหาร
ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ และ สามารถเลี้ยงได้อย่างสะดวก ทั้งในบ่อดิน และ บ่อซีเมนต์
หรือกระทั่งในนาข้าว เพื่อ
เก็บเกี่ยวผลผลิตอีกครั้ง หลังจากข้าวออกรวงเรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการทำนา
ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
ปลาสลิดเป็นปลาที่ชอบอยู่ในบริเวณทีมีน้ำนิ่ง
เช่น หนอง บึง ตามบริเวณที่มีพันธุ์ไม้น้ำ เช่น ผักและสาหร่ายที่ขึ้นเป็นกลุ่มอยู่ตามริมน้ำ
เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยกำบังตัวและก่อหวอดวางไข่นั่นเอง โดยรูปพรรณสันฐานแล้ว ปลาสลิดนั้นจะมีรูปร่างคล้ายปลากระดี่หม้อ
แต่มีขนาดที่โตกว่า ลำตัวแบนข้างมีครีบ ท้องยาวครีบเดียว
สีของลำตัวมีสีเขียวออกเทาหรือมีสีคล้ำเป็นพื้น
และมีริ้วดำพาดขวางตามลำตัวจากหัวถึงโคนหาง เกล็ดบนเส้นข้างตัวประมาณ 42-47 เกล็ด
ปากเล็กยืดหดได้ ปลาสลิดซึ่งมีขนาดใหญ่เต็มที่จะมีความยาวได้ถึงประมาณ 20
เซนติเมตรเลยทีเดียว
การเลี้ยงปลาสลิดนั้น สามารถเลี้ยงได้
ทั้งแบบรวมกับปลากินพืชชนิดอื่นๆ หรือ
เลี้ยงเฉพาะปลาสลิดเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำได้ เตรียมพื้นที่เลี้ยง โดยถ้าเป็นบ่อดินนั้น
ก็ควรจะเริ่มจากการหาที่ดินที่เหมาะสม
เพื่อขุดทำบ่อเลี้ยงพื้นที่ที่เหมาะสมต้องเป็นดินเหนียวและดินเค็มมาก่อน
แต่น้ำที่ใช้เลี้ยงปลาต้องจืดสนิท ทำเลบ่อต้องอยู่ติดคูคลองเพื่อง่ายต่อการวิดน้ำเข้าบ่อเลี้ยง
วิธีการทำบ่อเลี้ยงต้องขุดบ่อกว้าง 3 เมตร ลึกเริ่มจากที่ดอนประมาณ 1 เมตร ขุดสโลปโดยรอบที่
จนถึงที่ลุ่มลึก 3 เมตร โดยขุดตามแนวรอบดิน นำดินที่ขุดจากร่องไปตั้งเป็นคัน
ห่างจากร่องน้ำ 10 เมตร เพื่อเป็นคันสำหรับเก็บกักน้ำในบ่อเลี้ยง
ทำคันดินให้กว้างประมาณ 6 เมตร
อัดให้แน่นไม่ให้น้ำซึมออกและบนพื้นที่บ่อที่ลุ่มขุดบ่อเล็ก ๆ ขนาด 4x6 เมตร ลึก 2 เมตร เป็นบ่อสำหรับเก็บพ่อพันธุ์
แม่พันธุ์ปลาสลิดไว้เตรียมเพาะพันธุ์ลูกปลา และในส่วนของการเตรียมบ่อ ผู้เลี้ยงก็ควรจะปลูกผักบุ้งบนพื้นที่บ่อให้เต็ม
และกำจัดศัตรูของลูกปลาในบ่อ โดยเฉพาะในร่องรอบบ่อให้หมด โดยใช้ไซด์ยาไนต์ หรือ
โรติ้น แต่ถ้าเป็นบ่อปูน ก็เพียงแต่ จัดการเรื่องของระบบน้ำต่างๆ ให้เรียบร้อย และ
หาพืชน้ำมาปลูกเอาไว้ในบ่อซักระยะก่อน แล้วค่อยทยอยลงปลาก็ได้ครับ
ปลาสลิดกำลังผสมพันธุ์กันในตู้กระจกครับ
ในการเพาะพันธุ์ปลาสลิดนั้น ในบางช่วงอาจจะต้องมีการจำกัดอาหารพ่อและแม่ปลาซักระยะหนึ่ง
และมีการเปลี่ยนน้ำใหม่ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นให้แม่ปลาผลิตไข่
คล้ายกับวงจรของธรรมชาติ หรือ อาจจะหาอาหารปลาสำเร็จรูป
มาคลุกกับฮอร์โมนบำรุงพ่อและแม่พันธุ์ปลาก็ได้ เมื่อ ปลาจับคู่
ก่อหวอดกันเรียบร้อยแล้ว ผู้เลี้ยงก็อาจจะใส่ปุ๋ยหมัก หรือ
ตัดเศษหญ้าตามขอบบ่อลงไปในบ่อ ให้เกิดไรน้ำ เพื่อเป็นอาหารแก่ลูกปลา และ
ค่อยๆทยอยจับปลาสลิดที่โตได้ขนาดไปจำหน่ายเป็นระยะๆ ต่อไป ส่วนน้ำในบ่อนั้น
ก็ถ่ายออกบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อรักษาคุณภาพน้ำตามสมควรก็เพียงพอแล้วครับ โดยปลาพ่อและแม่พันธุ์นั้น
จะเริ่มจับคู่ผสมพันธุ์กันเมื่ออายุได้ประมาณ 7 เดือนครับ
โดยสามารถวางไข่ได้ครั้งหนึ่ง มากถึงประมาณ 4,000 – 10,000 ฟองเลยทีเดียว และ
การเลี้ยงปลาสลิดในบ่อปูนจะสามารถคัดแยกลูกปลาออกมาเลี้ยงในบ่อต่างๆได้ง่ายกว่า
ในบ่อดินครับ
ปลาสลิดจัดว่าเป็นปลาน้ำจืด
ที่ได้รับความนิยมในการนำมารับประทาน มาเป็นระยะเวลานานแล้ว เนื่องจากเนื้อมีรสชาติอร่อย
สามารถนำมารับประทานได้ทั้งปลาสด และ ปลาแห้งแปรรูปเป็นอาหารได้อย่างหลากหลาย และ
มีราคาต่อ ก.ก. ที่ค่อนข้างเสถียรครับ เหมาะกับการนำมาเป็นปลาน้ำจืดเพื่อการบริโภคทั้งภายในครัวเรือน
และ ผลิตจำหน่ายครับ
เครดิตข้อมูลเสริม
*****************************************
ถ้าพี่ๆน้องๆสนใจบทความ และ หนังสือน้องกุ้งแคระ & กุ้งเครย์ อื่นๆ อยากเก็บเอาไว้สะสม สามารถเข้าไปที่นี่ได้เด้อครับ
ติดตาม แฟนเพจ Thailand Aquatic Pet เพื่อติดตามเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ สัตว์น้ำสวยงาม ที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ครับ
***************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น