วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2562

แนวทางการเลี้ยงปลาไหล


 เมื่อเอ่อถึงปลาที่ตัวมีเมือกลื่นๆ หน้าตาดูคล้ายๆกับสัตว์เลื้อยคลานอย่าง งู ใครๆ ก็ต้องร้องว่า  อ๋อ....ปลาช่อน...ผ่างงงงง ไม่ใช่ ปลาเข็ม ต่างหากกกก...ผ่างงง...ไม่ใช่อีก เฉลยก็ได้ นั่นก็คือ ปลาไหล นั่นเองงงงงงงงงงง....( ทำเสียงก้องๆแบบพิธีกร รายการ T.V. direct นะครับ ) ปลาไหลนั้นเป็นปลาที่อยู่คู่กับชนชาติต่างๆมาอย่างยาวนาน มีความนิยมในการบริโภคในรูปแบบต่างๆอย่างหลากหลาย ทั้งแบบย่าง,เอามาทานกับข้าวซูชิ เช่นทางญี่ปุ่นซึ่งก็ถือว่าเป็นศิลปะการประกอบอาหารชั้นสูง ใช้เวลาในการฝึกฝน เพื่อความชำนาญ และ ความเอร็ดอร่อยกันหลายปี รวมทั้งสูตรในส่วนของน้ำราดด้วย ที่บางทีเก็บสะสมกันมาเป็นเคล็ดลับของแต่ละร้านเป็นต้น ส่วนในไทยเรา พันธุ์ปลาไหลที่บ้านเรามีนั้นอาจจะไม่ได้มีการนำมาทำในแบบอย่างคล้าย ๆ กับประเทศญี่ปุ่น แต่จะเป็นในลักษณะที่เป็นการผัดเผ็ด,ต้มยำ,แกงเผ็ด หรืออื่นๆ อีกมากมาย ที่มีความเอร็ดอร่อยอย่างมากเช่นกัน และเป็นรสชาติที่อยู่คู่กับท้องตลาดบ้านเรามาเป็นเวลานานแล้วเช่นกันครับ พี่น้องหลายๆท่านก็คงจะเคยรับประทานกัน ก็ต้องขอยืนยันว่าเอร็ดอร่อยจริงๆ ( อิอิอิ ) แถมในทางด้านคุณค่าทางอาหาร ก็มีโปรตีน และ วิตามิน E ที่สูงด้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นอาหารโปรตีนจากเนื้อปลาที่บำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดีจริงๆ  ปัจจุบันความต้องการในการบริโภคปลาไหลนั้น ก็ยังคงมีอยู่สูง แต่ปริมาณของปลาไหลที่สามารถพบเจอได้ในธรรมชาตินั้น มีปริมาณที่ลดน้อยลง ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในบ้านเรา ทำให้ การเพาะเลี้ยงปลาไหลเพื่อการบริโภคนั้น ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ครับ
    ปลาไหลนา นั้นสามารถพบได้ทั่วไปทุกภาคของประเทศ เนื่องจากเป็นปลาที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีใน แหล่งน้ำหลากหลายสภาพ สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้ดีในระดับหนึ่ง ปลาไหลนานั้น จะมีกระดูกเหงือก 3 คู่และสามารถใช้ลำไส้ส่วนท้าย (เรียกกันว่า hindgut ) ในการเป็นเครื่องช่วยในการหายใจ ตามฤดูกาลธรรมชาตินั้น ปลาไหลนาในฤดูแล้งจะจัดการขุดรู อยู่อาศัยลึกลงไปในพื้นดิน แล้วลืมมันให้สิ้นไปจากใจ เสียคงดี...เฮ้ย ไม่ใช่ เพลง พี่บิลลี่ โอแกน (ผ่าง ) เอาเป็นว่า ปลาไหลนานั้นจะขุดรูลึกลงไปในดินประมาณ 1 - 1.5 เมตร และจะออกหากินในเวลากลางคืน ปลาไหลนานั้นเป็นปลาที่มีความมหัศจรรย์ สามารถที่จะเปลี่ยนเพศได้ (hermphrodite) โดยไม่ต้องพึ่งบริการ ของ โรงพยาบาลแบบมนุษย์แต่ประการใด (ฮา)
   โดยปลาไหลในช่วงอายุน้อยๆ หรือขนาดไม่ใหญ่นัก จะเป็นปลาเพศเมีย และจะเริ่มกลายเป็นปลาเพศผู้เมื่อโตขึ้น ด้านน้ำหนักนั้น ปลาเพศเมียจะมีน้ำหนักโดยประมาณตั้งแต่ 100 -  300 กรัม ส่วนปลาเพศผู้นั้น จะมีน้ำหนักมากกว่าถึง 400 กรัม สำหรับปลาไหลนานั้นสามารถแบ่งเป็นตัวผู้ตัวเมียด้วยอวัยวะเพศเท่านั้น ดูจากรูปร่างหน้าตาโดยรวมๆแล้วจะแยกไม่ได้ โดยตัวเมียที่อยู่ในระยะเจริญพันธุ์เท่านั้นจึงจะพบรังไข่ได้ เพราะในช่วงก่อนวัยเจริญพันธุ์จะไม่สามารถแยกแยะเพศปลาไหลได้ ซึ่งอยู่ในช่วงประมาณ 8-30 สัปดาห์ ก่อนถึงวัยเจริญพันธุ์ มีเรื่องที่น่าสนใจก็คือ รังไข่ของปลาไหลตัวเมียนั้น จะเจริญเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างจะลีบฝ่อ โดยปกติแล้ว ปลาไหลนานั้น จะมีช่วงฤดูวางไข่ตั้งแต่เดือนมีนาคม-ตุลาคม แต่จะมีปริมาณ และการวางไข่ที่มากในช่วงต้นฤดูฝนจนถึงกลางฤดูฝน หรือถึงช่วงประมาณเดือนสิงหาคม เนื่องจากปลามีความสมบูรณ์มากตามสภาพแวดล้อมตามธรรมชาตินั่นเอง ปลาไหล จะมีปลาที่เป็นญาติใกล้ชิดอยู่ 2 ชนิด ก็คือ ปลาหลาด (Ophisternon bengalense, Mcclelland (1845)) และ ปลาหลอย (Macrotema caligans, Cantor (1849 )) ซึ่งก็เป็นปลาที่มีรูปร่างคล้ายๆกัน ( ก็เป็นญาติๆกันอ่ะเน่อ ) แต่มีขนาดที่เล็กกว่ามากครับ คือทั้งสองชนิดนี้ จะมีขนาดประมาณแค่ 20 – 30 เซนติเมตรเท่านั้นครับ และมีแหล่งกระจายตัวไม่มากเท่าปลาไหลนาครับ
     ปลาไหลนา จัดเป็นพวกปลากินเนื้อ (carnivorous) กินอาหารที่มีสภาพสดจนถึงเน่าเปื่อย ตัวหนอน ตัวอ่อนแมลง หอย ไส้เดือน และสัตว์หน้าดินชนิดต่าง ๆ เท่าที่จะหาได้ และเป็นปลาที่มีนิสัยรวมกลุ่มกันกินอาหารดังนั้น ในบางครั้ง การดักปลาไหล ด้วยเหยื่อประเภทต่างๆ อาจจะได้ปลาไหลที่อยู่ในละแวกนั้นไปเข้าที่ดักได้ ครั้งละหลายๆตัวก็มี  ( สบายองค์ แบกกลับบ้านกันเพลิดเพลินเลยทีเดียวงานนี้ ) ปลาไหลนา เป็นปลาที่อาศัยได้ทั้งในน้ำ และโคลนตม แต่ถ้าเป็นดินที่แห้งกรังและขาดน้ำโดยสิ้นเชิง ก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เช่นกัน โดยในฤดูแล้ง เรามักจะพบเจอปลาไหลได้ ในบริเวณที่เป็นพื้นที่สระ,ทุ่งนา หรือพื้นที่แหล่งน้ำขังบางพื้นที่ๆ ถึงแม้อาจจะดูน้ำมีน้อย เหลือแค่ที่แห้งขอดอยู่ที่พื้นดิน และเป็นกองโคลนตมอยู่ ก็อาจจะเป็นที่หลบอาศัยของปลาไหลไปแบบพอประทังชีพไปได้ จนกว่าจะถึงฤดูฝน ซึ่งตามลักษณะนิสัยตามธรรมชาติ ก่อนที่น้ำจะลดจนแห้ง ปลาไหลนาจะเริ่มขุดรู และมุดตัวเองลงไปอาศัยอยู่ที่ชั้นโคลนตมด้านล่าง ซึ่งความสามารถในการขุดรูของปลาไหลนี้ สามารถที่จะขุดได้ลึกมากกว่า 1 เมตร เลยทีเดียว ซึ่งใน ช่วงนี้ ปลาไหลนั้นจะอาศัยกินโคลนตมที่มีซากเน่าเปื่อยของพืช และสัตว์ แค่พอประทังให้มีชีวิตรอด ซึ่งถ้าผู้เลี้ยงต้องการหาพันธุ์ปลาไหลมาเลี้ยง และอยากออกกำลังกายข้อมือ หัวไหล่ และ กล้ามเนื้อต่างๆ ก็ไปนั่งขุดหาเอาตามแหล่งที่คิดว่า จะมีปลาไหลอาศัยหมกโคลนตมอยู่ได้ตามอัธยาศัยครับ (ฮา)
   ส่วนในฤดูฝน นั้น เมื่อปลาไหลได้น้ำแล้ว ก็จะทะลวงพื้นโคลน สามหมื่นโยชน์  ออกมาหลั่นล้า ระเริงน้ำ กันอย่างกระฉับกระเฉง ( เว่อร์ไปละ ) ปลาไหลนาจะออกหาอาหาร กินจนอิ่มแปล้และอ้วนท้วนสมบูรณ์ และพ่อและแม่พันธุ์ปลาไหล ก็จะเริ่มจับคู่ผสมพันธุ์และออกหาแหล่งวางไข่ ซึ่งพ่อและแม่พันธุ์ปลาไหลจะว่ายน้ำไปในแหล่งน้ำใหม่ เช่น บริเวณทุ่งนาหรือพื้นที่ที่น้ำท่วมถึงในเวลากลางคืน และหาพื้นที่ในการวางไข่ต่อไป ซึ่งในช่วงหน้าฝนนี่ก็จะเป็นช่วงที่เหมาะสมในการ หาพ่อและแม่พันธุ์ในการนำมาเลี้ยงและเพาะพันธุ์เป็นอย่างมาก เพราะช่วยลดเวลาในการขยายพันธุ์ได้เป็นอย่างดี  เพราะบางทีเราก็จะได้แม่ปลาไหลที่มีไข่เต็มท้องมาแล้วนั่นเอง เพราะพอแม่ปลาไหลปรับตัวเข้ากับที่เลี้ยงได้ปุ๊บ แม่ปลาไหลก็สามารถทำรังวางไข่ได้เลยครับ  แต่สำหรับในธรรมชาตินั้น เมื่อแม่ปลาไหลนาจะวางไข่นั้น ก็จะเริ่มทำการขุดรู ในบริเวณที่เป็นพื้นที่ๆเป็นดินเหนียว ขุดจนลึกเพื่อที่จะมุดเข้าไปวางไข่ ซึ่งพื้นที่ๆสามารถพบรังวางไข่ของปลาไหลได้มาก ก็เช่นพื้นที่ๆเป็นส่วนรอยต่อระหว่างขอบสระ ขอบแม่น้ำ ต่างๆ รวมถึงพื้นที่ประเภทโพรงไม้ในบริเวณน้ำตื้นๆลักษณะไข่ปลาไหลนั้นจะเป็นอย่างไร ?  ไข่ของปลาไหลนั้นจะมีลักษณะเป็นทรงกลม ส่วนในเรื่องของสีสันนั้น จะมีสีเหลืองอ่อน และมีขนาดโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 3 มิลลิเมตร เป็นไข่ชนิดจมน้ำ และไม่มีสารเหนียวคลุมไข่ แม่ปลาไหล 1 ตัวนั้น จะวางไข่ประมาณ 100-1000 ฟอง ขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของแม่ปลาไหล
   หลังจากวางไข่แล้ว แม่ปลาไหลนาจะคอยดูแลไข่อย่างใกล้ชิดภายในรู และจะออกหากินบ้างบริเวณใกล้ อย่างไม่ทิ้งห่าง โดยแม่ปลาไหลมีพฤติกรรมการอมไข่ และพ่นไข่ใส่หวอด ทั้งนี้ ไข่ปลาไหลจะฟักเป็นตัวภายใน 7 วัน โดยหลังจากลูกปลาไหลฟักออกจากไข่แล้ว ลูกปลาไหลจะยังอยู่ในโพรงดินหรือรังต่อ แต่เมื่อไข่แดงยุบตัวแล้ว หรือประมาณ 7 วัน หลังการฟัก ลูกปลาไหลจึงว่ายออกมานอกรัง ออกมาหากิน เจริญเติบโตต่อไป ตามชะตาชีวิตของแต่ละตัวต่อไป
    ถ้าผู้เลี้ยงเน้นนิยมความรวดเร็ว โดยไม่หวั่นไหว เรื่องการเงิน งบประมาณเหลือเฟือ ที่เลี้ยงเตรียมพร้อม ขาดแต่ปลา กำลังร้อนเร่าอยากลองเลี้ยงเต็มที่แล้ว ทางพี่น้อง ฯก็สามารถที่จะนำเงิน ไปหาซื้อพ่อและแม่พันธุ์ปลาไหลได้ตามท้องตลาดเลยครับ มีข้อดีตรงที่สามารถเลือกได้ขนาดตามที่ต้องการกันได้เลย เรียกได้ว่าในตลาดหลายๆที่ นั้นมีปลาไหลหลากหลายขนาด ทั้งขนาดวัยรุ่น และ วัยผู้ใหญ่ ขนาดพร้อมผัดเผ็ด ยัน ขนาดต้มซุปเลยก็ว่าได้ (ฮา) แถมยังมีข้อดีก็คือ ไม่ต้องเหนื่อยคัดขนาดด้วยครับ เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่นั้น คัดขนาดของปลาไหลมาให้เราเรียบร้อยแล้วครับ เพราะทางร้านค้าเขาก็สะดวกในการขายตามขนาดที่ต่างๆกันไปด้วย แต่แน่นอนว่า วิธีนี้ก็ต้องมีค่าลงทุนเพิ่มเติมขึ้นมาแน่นอนนั่นเองครับ
    ส่วนสำหรับพี่ๆน้องๆที่เป็นสายฟรีทั่วประเทศ ไม่เน้นเทพ True ที่สามารถมั่นใจได้ว่าการหาพ่อและแม่พันธุ์ปลาไหลในท้องถิ่นของท่านนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนัก ด้วยว่าความสมบูรณ์ของธรรมชาตินั้นยังดีอยู่ ไม่ใช่เดินวางเบ็ดตกจนทั่วท้องที่แถวบ้าน จนปวดหลังต้องทาเคาเตอร์เพน แต่ได้ปลาไหลมาแค่ไม่กี่สิบตัว แถมปลายังขนาดไม่ค่อยจะเท่ากันด้วย เล็กๆใหญ่ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการหาปลาธรรมชาติ ที่จะไปกะเกณฑ์ให้แม่นยำนั้น บางทีก็อาจจะไม่ได้อย่างใจนั่นเอง แต่ถ้าเป็นพื้นที่ๆมีปลาไหลอุดมสมบูรณ์อย่างมากมาย ชนิดที่ว่าวางกับดักเพียงวันสองวัน ก็จะได้ปริมาณมากมายพอเอามาเพาะเลี้ยง ก็สามารถวางกับดักกันได้ตามสบายเลยครับ
    ปลาไหลนั้น จัดเป็นปลาที่สามารถเลี้ยงได้ในหลากหลายสภาวะ อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในบ่อดิน หรือ บ่อปูน ก็สามารถเลี้ยงได้อย่างไม่มีปัญหา โดยขึ้นอยู่กับแนวทางการจัดการๆเลี้ยงของแต่ละผู้เลี้ยงนั่นเอง  ว่าต้องการที่จะเลี้ยงปลาไหลอย่างไร และ มีทุนทรัพย์ในการลงทุน  และ จับการตลาดในแนวใหนนั่นเอง เช่น ผู้ที่ต้องการเพาะเลี้ยงแบบครบวงจร ก็อาจจะต้องมีทั้งบ่อปูน และ บ่อเลียนแบบธรรมชาติ เพื่อให้สามารถทำได้ทั้งการเลี้ยงขุนขนาด และ การเพาะพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองครับ


****************************************************************
 สนใจเล่นล็อตเตอร์รี่ Online เล่น 1 บาท ขำๆ ฮาๆ ก็ยังเล่นได้ คลิ๊กเลยจ้า 


****************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น